วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เรสเวอราทรอล สารมหัศจรรย์ต้านมะเร็ง


โรคที่เป็นสาเหตุของการตายอันดับหนึ่งของคนไทย คือ โรคมะเร็ง แม้ว่าจะมีความพยายามในทางการแพทย์ตลอดมาก็ยังไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้

มะเร็งนับเป็นปัญหาสำคัญในทางสาธารณสุขของประชากรทุกประเทศในโลก เมื่อเปรียบเทียบกับการตายด้วยโรคหัวใจ เอดส์และอุบัติเหตุอื่น

จากข้อมูลทางการแพทย์ในระดับสากลพบว่า ในปีพ.ศ. 2537 มีผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งมากกว่า 18 ล้านคน และจะมีปริมาณผู้ป่วยเพิ่มขึ้นถึงปีละ 9 ล้านคน องค์การอนามัยโลก (WHO) คาดการณ์ว่าประมาณปี พ.ศ. 2563 จะมีผู้ป่วยเสียชีวิตด้วยโรคนี้มากกว่า 11 ล้านคน และจะเกิดขึ้นในประเทศที่กำลังพัฒนามากกว่า 7 ล้านคน

ในประเทศไทย มะเร็งท่อน้ำดีเป็นมะเร็งตับที่พบว่ามีอุบัติการณ์สูงที่สุดในโลกโดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยที่สร้างความทุกข์ทรมานและคร่าชีวิตคนอีสานมาเป็นเวลาช้านาน ในรายงานพบมะเร็งชนิดนี้ถึงร้อยละ 90 ของมะเร็งตับโดยเฉพาะจะเกิดกับเพศชายในอัตราสูงถึงร้อยละ 88 นอกนั้นจะพบในสตรี ซึ่งนับเป็นปัญหาที่สำคัญยิ่งด้านการรักษาทางการแพทย์ตลอดมา

ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์และแพทย์ได้พยายามคิดค้นหาแนวทางยับยั้ง รักษาและบำบัดเซลล์มะเร็ง อันเป็นทางเลือกใหม่ในวงการแพทย์แผนไทย โดยการนำสมุนไพรไทยหลายๆชนิดมาวิเคราะห์เพื่อใช้ร่วมในการรักษาและบำบัดโรค เพราะสมุนไพรไทยมีสรรพคุณทางบำบัด รักษาหรือยับยั้งอาการของโรคได้ ซึ่งแพทย์แผนไทยได้ใช้เป็นยามาตั้งแต่โบราณ นอกจากนี้สมุนไพรไทยยังเป็นวัตถุดิบที่มีราคาถูกและได้พัฒนาแนวทางใหม่ๆขึ้นโดยนำมาสกัดเอาสารที่มีคุณภาพเพื่อผลิตเป็นยาและทดลองใช้กับเซลล์มะเร็ง และปรับปรุงให้เป็นยาแผนปัจจุบัน อันจะทำให้ผู้ป่วยมีอายุยืนยาวและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นแผนการวิจัยและพัฒนายาสมุนไพรจากผลิตภัณฑ์ธรรมชาติและสารสังเคราะห์เพื่อการป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งที่ถือว่าเป็นแผนกลยุทธ์ที่สำคัญอันดับหนึ่ง อีกทั้งยังก่อให้เกิดทิศทางการวิจัยที่สำคัญและสนองนโยบายการพึ่งพาตนเองทางด้านยาของประเทศตามแนวทางการวิจัยแห่งชาติฉบับที่ 6 ซึ่งจะช่วยลดการเสียดุลทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย

องค์การอนามัยโลกได้ศึกษาและพบว่าประมาณร้อยละ 80 ของประชากรโลกได้มีการนำเอาสมุนไพรพื้นบ้านมาใช้ในการรักษาโรคเบื้องต้นและพัฒนามาเป็นยารักษาโรคที่สำคัญๆตลอดมา การศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับการยับยั้ง รักษา และบำบัดโรคมะเร็ง ด้านสารสกัดจากสมุนไพรพบว่า สารสำคัญที่มีคุณสมบัติออกฤทธิ์ป้องกันและรักษามะเร็งได้ เช่น สารประกอบ phenolic, alkaloids, flavonoids, terpenoids, carotenoids เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีข้อมูลยืนยันว่า สารสกัดจากพืชบางตัวถูกนำไปผลิตเป็นยาแผนปัจจุบันและใช้รักษาโรคมะเร็ง การศึกษาวิจัยทางการแพทย์ในปัจจุบันได้นำสารเรสเวอราทรอล (resveratrol) ซึ่งเป็นสารประกอบที่พืชสร้างขึ้นเมื่อได้รับอันตรายจากการติดเชื้อโรค เช่น จากราชนิด Botrytis cinera (Paul et al., 1998) หรือแบคทีเรีย หรือจากรังสียูวี เรสเวอราทรอลนี้จะมีคุณสมบัติเป็นสารปฏิชีวนะที่พืชสังเคราะห์ขึ้น ค้นพบครั้งแรกในรากวัชพืช Polygonum caspidatum ซึ่งชาวจีนและญี่ปุ่นนำมาใช้ทำยาต้านการอักเสบนอกจากนี้เรสเวอราทรอลยังเป็นสารโพลีฟีนอล (polyphenol) ซึ่งอยู่ในกลุ่ม stilbene ที่พบมากในพืชหลายชนิด เช่น องุ่น ต้นหม่อน บลูเบอรี เบอรี ถั่วลิสง ใบชา และยังพบอีกว่า ที่ผิวเปลือกองุ่นและเมล็ดองุ่นแดงมีปริมาณของเรสเวอราทรอลสูงมาก จากรายงานองค์การอนามัยโลก ยืนยันว่า เรสเวอราทรอลสามารถลดอาการเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจได้ถึง 40% ขณะเดียวกันยังต้านอนุมูลอิสระและยับยั้งการสะสมของโคเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ และการเกิดการออกซิเดชันของ LDL ที่ทำให้เกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย ลีเกอร์และคณะได้สำรวจผู้ดื่มไวน์กับการเป็นโรคหัวใจของประชากร 18 ประเทศ พบว่า ประชากรของประเทศฝรั่งเศสมีโอกาสเป็นโรคหัวใจต่ำสุด แม้จะบริโภคอาหารที่มีไขมันสูงมากกับการดื่มไวน์จะเป็นโรคหัวใจเพียงร้อยละ 42 ของคน ทั้งนี้เพราะในไวน์แดงมีเรสเวอราทรอลที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้เรสเวอราทรอลยังช่วยยับยั้งการรวมตัวตกตะกอนของเลือดและเกล็ดเลือดได้ ถึง 3 เท่าของแอลกอฮอล์

รายงานการวิจัยจากศูนย์มะเร็งแห่งนครลอสแองเจลิส พบว่า สารนี้มีฤทธิ์บีบเนื้อร้ายหดตัวเล็กลงและทำลายให้หมดไปได้ ยิ่งไปกว่านั้นนักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและสถาบันวิจัยวัยทองของสหรัฐอเมริกา พบว่า สารนี้ช่วยป้องกันโรคตับ เบาหวานและโรคอ้วนในหนูทดลองน้อยลง 31 % โดยควบคุมเมแทบอลิซึมของไขมันแล้วยังทำให้มีอายุยืนยาวขึ้น นับว่าเป็นการค้นพบครั้งแรกของความมหัศจรรย์ของสารนี้กับทั้งยังไปกระตุ้นการทำงานของยีนส์ที่ควบคุมและป้องกันความชรา (aging) โดยไปเพิ่มปฏิกิริยาการทำงานของเอนไซม์ SIRT1 ที่มีบทบาทในการยืดอายุไขของมนุษย์ ก่อให้เกิดการเผาผลาญอาหารได้อย่างมีประสิทฺธิภาพ สร้างความหวังให้กับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคอ้วนของมนุษย์

ความมหัศจรรย์อีกเรื่องหนึ่งของเรสเวอราทรอล คือ ป้องกันการเกิดโรคการเสื่อมของเส้นประสาท ในสมองได้โดยเฉพาะโรคอัลไซเมอร์ (Salafia, 1999) โดยช่วยกระตุ้นการสร้างปลายเซลล์ประสาทใหม่และสารนี้ยังช่วยป้องกันความเสียหายของสมองเมื่อเกิดหลอดเลือดตีบหรือแตกมีผลทำให้หลอดเลือดขยายตัวเช่นเดียวกับไวอากรา การวิจัยยังพบว่า ปริมาณเรสเวอราทรอลจะแตกต่างกันในไวน์ขาวจะมีปริมาณต่ำกว่าไวน์แดง (Dourtoglou et al., 1999) การดื่มไวน์แดงเป็นประจำในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยลดและป้องกันการเกิดโรคหัวใจล้มเหลวได้ดีกว่าไวน์ขาวอีกด้วย

จากการศึกษาวิจัย (นภาพร แก้วดวงดี, 2547) ได้นำสารเรสเวอราทรอลมาทำการทดสอบฤทธิ์ความเป็นพิษของเรสเวอราทรอลต่อการยับยั้งการเจริญเติบโตและฆ่าเซลล์มะเร็งท่อน้ำดี ที่พบในประเทศไทย คือ มะเร็งท่อน้ำดี KKU-100 โดยวิธี SRB assay พบว่า เรสเวอราทรอลสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งท่อน้ำดี KKU-100 โดยมีค่า IC50 เท่ากับ 6.74?0.21 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตรและฤทธิ์ความเป็นพิษต่อเซลล์มะเร็งจะแปรตามความเข้มข้นของสาร เมื่อเทียบกับเซลล์ปกติจะมีค่า IC50 เท่ากับ 16.29?2.69 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร นอกจากนี้ยังพบว่า "เรสเวอราทรอล" ยังช่วยยับยั้งวัฏจักรของเซลล์มะเร็งท่อน้ำดี (cell cycle arrest)ได้ และยังสามารถชักนำให้เกิดการตายของเซลล์มะเร็งและหยุดยั้งการกระจายจนตายไปในที่สุดที่เรียกว่า "อะพ็อพโตซิส" ซึ่งเป็นการวิจัยครั้งแรกที่ค้นพบในประเทศไทย

ในการศึกษาครั้งนี้ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา และได้รับการสนับสนุนทางเครื่องมือจากคณะแพทย์ศิริราชพยาบาลและ Prof. Dr. Anirban Maitra ณ มหาวิทยาลัย Johns Hopkins สหรัฐอเมริกา

ท้ายนี้ใคร่ชี้ให้เห็นถึงแนวคิดที่สำคัญที่สุด คือ ยังมีพืชผักอีกหลากหลายชนิดที่มีสารเรสเวอราทรอล ที่ควรศึกษาเพื่อจะนำมาสกัดให้ได้ปริมาณมากพอที่จะผลิตเป็นตัวยาเพื่อใช้ในทางแพทย์ของไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลในการเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันการชรา (anti-aging) ยืดอายุไขและต้านมะเร็งได้ตรงเป้าหมายได้ดีในนามของประเทศไทย
บทความพิเศษ ประจำวันที่ 15 สิงหาคม 2550
โดย ดร. นภาพร แก้วดวงดี
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น